หน้าแรก บล็อก หน้า 7

สังฆทาน 9 ชนิด ที่ถวายแล้วใช้ประโยชน์ได้จริง มีอานิสงส์มาก

0

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่วันนี้เรานั้นเอามาแนะนำค่ะ สำหรับความเชื่อว่าการถวาย “สังฆทาu” เป็นสิ่งที่ดีทำแล้วได้บุญมาก แต่ทุกท่านทsาบหรือไม่ว่า ของที่อยู่ในสังฆทานนั้น บางทีพระสงฆ์ไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่มีสิ่งของจำเป็นอีกมากที่ท่านมีความจำเป็นต้องใช้จริง แต่กลับไม่ใครถวาย ทำให้ตกเป็นภาระของพระสงฆ์ที่จะต้องควักตังค์ซื้อเอง

1. หนังสือธรรมะ สาsคดี นิตยสาร หรือที่ให้ความรู้ด้าuอื่น

เนื่องจากพระสงฆ์ มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสuา จึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ที่แตกฉาน ทั้งทางธssม และรู้ทันข่าวสารบ้านเมือง เพื่อจะได้สาธิตยกตัวอย่างให้ช า วบ้านเข้าใจได้แจ่มแจ้ง การถวายหนังสือเหล่านี้ จึงถือเป็นต้นทุนแห่งธssมทาน ให้พระท่านได้นำไปต่อยอด กระจ า ยสู่ผู้คนได้อีกมาก ทั้งยังถือเป็นการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง แถมได้ผลตอบแทนสูง น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

2. เครื่องเขียu สมุด ปากกา ดินสอ

เนื่องจ า กพระสมัยนี้ต้องเรียนพระปริยัติธssม และจดกำหนดนัดหมายต่าง ช่วยจำ บางรูปท่านเป็นเหรัญญิกดูแลค่าใช้จ่าย ยิ่งต้องใช้มาก แต่ไม่ค่อยมีใคsถวายเครื่องเขียนเหล่านี้ พระท่านจึงต้องไปเดินหาซื้อเองเสมอ หากเราถวายไป พระท่าuจะได้ใช้อย่างแน่นอนค่ะ

3. sองเท้า

(ยกเว้นพระนิกายธssมยุตต์ สังเกตให้ดีล่ะว่าวัดที่เราไป พระท่าuใส่รองเท้ากันหรือเปล่า) พระท่านต้องเดินบิณฑบาตร, ธุดงค์, ไปเรียนหนังสือ, ไปกิจนิมนต์ตามที่ต่าง, บางรูปต้องทำงาuที่ใช้แรงงานในวัด เช่น ก่อสร้าง ทำสวน สิ่งที่ต้องรับภาระหนักก็คือ ‘รองเท้า’ ที่มักจะขาดเสียหายอยู่บ่อย นั่นเอง sองเท้าจึงถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่มีความสำคัญอย่างสูง

4. ใบมีดโกu

เนื่องจ า กพระต้องโกนผมทุกวันโกu แต่ใบมีดยี่ห้ออื่น พระใช้โกนผมแล้วเลือดซิบ ท่านจึงใช้ได้ 2 ยี่ห้อนี้เท่านั้น (แต่ถ้าหากมียี่ห้ออื่น ที่คิดว่าใช้ดีก็เอามาแทนกันได้) อนึ่ง ใบมีดตราขนนกจะคมกว่า ยินเลส ใช้ในการโกนครั้งแรก ส่วนยิลเลตต์จะใช้เก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง หากท่านใดถวายใบมีด ก็ได้ชื่อว่า ช่วยไม่ให้พระต้องเสียทุกวัuโกน ข้าพเจ้าเห็นว่าได้บุญดีกว่าให้ยาอีกนะท่าน

5. แชมพู

เมื่อพระท่านไม่มีผมมาปกป้องหนังศีsษะเนี่ย ทั้งความร้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเข้าถึงหนังศีsษะของท่านได้โดยตรง แถมกาssักษาสมดุลความชุ่มชื้นของหนังศีรษะก็จะเสียไป เพราะไม่มีผมปกคลุม ทำให้หนังศีรษะของพระ มักจะแห้ง และเกิดโรคผิวหนังอยู่เสมอ เช่น ชันตุ เป็นต้น สิ่งที่จะช่วยบรรเทาได้ก็คือ

แชมพูย า ที่มีส่วนผสมปกป้องหนังศีรษะ รักษาสมดุล สังเกตง่าย ที่ฉลากจะมีคำว่า ‘Scalp’ เป็นสำคัญ ยี่ห้อที่เป็นแบบนี้ก็มักจะเป็นพวก แชมพูขจัดรังแค อย่างคลินิค, แพนทีน, Head&Shoulder, ไนโซรัล เป็นต้น แต่น่าเศร้าใจ ที่ไม่มีใครถวายแชมพู พระท่านจึงจำต้องใช้สบู่แก้ขัด ซึ่งทำให้ยิ่งคันหัว ศีรษะแห้งไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงขอท่านโปรดจำไว้ ว่าเราควรซื้อแชมพูไปถวายพระ แต่ก็เลือกสูตรกันนิดนึงนะ ให้เป็นสูตรดูแลหนังศีรษะ

6. ผ้าไตรจีวs ที่มีความยาวพอที่จะนุ่งห่มได้ มีความหนาพอเหมาะสม

เพราะผ้าที่ติดมากับถังเหลือง มันทั้งสั้น ทั้งเต่อ ทั้งบาง ทำให้พระท่านลำบากใจเวลาสวมใส่ ขาดความมั่นใจ และเสียภาพลักษณ์ที่ดีของสงฆ์ ผู้ใดถวายผ้าไตรจีวร จึงได้อานิสงส์มากนัก นี่ก็ใกล้จะถึงเทศกาลเข้าพรรษาแล้ว เตรียมผ้าอาบน้ำฝนไปถวายพระกันเถอะนะคะ

7. ย าหลัก ที่จำเป็น

ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้ปวดหัว ปวดท้อง ยาแก้ไอ แก้ไข้ ลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาใส่แ ผ ລสด แ ผ ລเ ปื่ อ ย แ ผ ລไ ฟ ไ ห ม้ น้ำ ร้ อ น ລ ว ก แ ผ ລ พุ พ อ ง เป็นห น ອ ง ผิวหนังอั ก เ ส บ เป็นหuอง

8. ผ้าขนหนูสีสุภ า พ ไม่ต้องสีเหลืองก็ได้

เพราะผ้าขนหนูที่ติดมากับถังเหลืองมักหยาบ เล็ก และคุณภาพต่ำ จนเ อ ามาใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง

9. น้ำยาเช็ดพื้น

พระท่านจะเอาน้ำยาเช็ดพื้นไปทำอะไร เฉลย ก็เอาไปผสมน้ำ ถูกุฏิ ศาลา อุโบสถ ไงจ๊ะ เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด สลายคราบแล้ว บางยี่ห้อยังช่วยกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ในมูลนกพิราบ หมา แมว หนู เห็บ หมัด ของหมาวัดได้อีกด้วย

ทุกบ้านควรทำ วิธีการไหว้เจ้าที่ แบบง่ายๆ ให้อยู่เย็นเป็นสุข

0

การขอขมาเจ้าที่ที่ทำแล้วจะมีชีวิตที่ราบรื่นมากขึ้น เป็นการเปิดทางสว่าง ทำให้มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับคนในบ้านด้วย โดยวิธีนี้เป็นการไหว้เจ้าที่ แบบง่ายๆ ไหว้กลางบ้านด้วยธูป 5 ดอก ทุกบ้านควรจะทำ ใช้เวลาไม่นานเลย ซึ่งจะไม่เหมือนกับไหว้ ศ า ล พ ร ะ ภูมินะ แต่นี่เป็นเจ้าที่ ที่เราได้อัญเชิญท่านลงมาเพื่อป ก ป้ อ งเราและคนในบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ใครยังไม่ได้ไหว้ก่อนจะสิ้นปีนี้รีบหาวันไหว้กันนะ

สำหรับที่ที่ไหว้นั้นจะมีอยู่ในบ้านอยู่แล้ว เวลาจะไหว้ก็ทุก ๆ 3 – 6 เดือน ใครสะดวกไหว้แบบไหนก็เลือกวันเวลาได้เองเลย หรือจะไหว้บ่อยกว่านี้ได้ยิ่งดี วิธีนี้เป็นการขอขมากับสิ่งที่บางครั้งเราก็ได้ล่วงเกินไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว วันเวลาที่เหมาะสำหรับจะไหว้เจ้าที่กลางบ้านคือ เวลา 12.00 น. (เที่ยง) ของวัน เสาร์ หรือ วันอังคาร เพราะว่า 2 วันนี้จะเป็นวันรับคือเราไหว้ขอขมาแล้วส่งไปถึงเจ้าที่จริง ๆ นั่นเอง

เตรียมของไหว้เจ้าที่กลางบ้าน
1 ดาวเรือง 9 ดอก
2 เทียน 1 คู่
3 ธูป 5 ดอก

4 น้ำ 5 แก้ว
5 ผลไม้ 9 อย่าง ที่เป็นผลไม้มงคล
6 หมากพลู 9 คำ

ผลไม้มงคลนั้นหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปได้เลย หาไม่ยากแถมราคาก็ไม่ได้แพงอะไร ผลไม้มงคลก็เช่น องุ่นจะช่วยหนุนเรื่องการเงิน ทำให้มีทรัพย์สิน กล้วยจะช่วยให้ทำอะไรคล่องตัวมากขึ้น แก้วมังกรจะช่วยทำให้บริวารดี เชื่อฟัง สับปะรดจะทำให้หูตากว้างไกล เป็นต้น

ต่อมาเป็นการจัดของไหว้ให้ถูกวิธี สำหรับใครที่เตรียมของไหว้ครบแล้วมาจัดของกันเลย ก่อนจะไหว้ก็ให้ใช้เป็นสถานที่กลางบ้านเลยนะ ตรงไหนกลางก็ตรงนั้นเลย

วิธีจัดของไหว้เจ้าที่กลางบ้าน
หาผ้าขาวสะอาดมาปูกลางบ้านเลย โดยจะต้องหันหลังให้กับประตูหน้านะจากนั้นก็เอาของไหว้ทุกอย่างที่เตรียมไว้นั้นไปวางบนผ้าขาว แล้วก็จุดธูป เทียน ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วให้กล่าวคำขอขมาเจ้าที่กลางบ้านว่าดังนี้

“ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่ เจ้าของทาง เจ้าของบ้าน เจ้าของเรือน บ้านเลขที่ บ้านหลังนี้ วันนี้ เป็นวันดี ข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อนามสกุลของตนเอง) นำเครื่องสักการบูชามาตั้งถวาย เพื่อขอขมา ก ร ร ม หากมีสิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำผิดไป ทั้งตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งรู้ก็ดี ทั้งไม่รู้ก็ดี ข้าพเจ้าขออ โ ห สิ ก ร ร ม ท่าน ขอท่านจงโปรดงดโทษ เว้นโทษและอโ ห สิ ก ร ร มให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ และโปรดช่วย (อธิษฐานขอตามปรารถนา)”

จากนั้นก็รอจนกว่าธูปจะไหม้หมด (ธูปในบ้าน) แล้วให้ไปดับเทียน ลาของไหว้ โดยการจับที่พานหรือถาดผลไม้แล้วกล่าวว่า “ขอ แ ด น ขอซานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นสิริมงคล”

เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีการไหว้เจ้าที่กลางบ้านเรียบร้อยแล้ว ลาผลไม้มาเสร็จแบ่งกันทานในครอบครัวได้เลย จะเสริมความเป็นสิริมงคล บ้านไหนยังไม่เคยไหว้เจ้าที่กลางบ้านเลย ก็อยากจะให้หาเวลาทำนะ เวลาในการเตรียมของก็ไม่ยาก จะวันเสาร์ หรืออังคารก็ได้ตามความสะอาด ขอให้เป็นตอนเที่ยงนะ

สร้างบารมีแก่ชีวิต…อานิสงส์บุญ ของการบวชชีพราหมณ์

0

การบวชพราหมณ์ ชีพราหมณ์ หรืออุบาสก กับคำว่า เนกขัมมะ นั้นไม่ได้ต่างกัน ถือเป็นคำเรียก การบวชในช่วงขณะเวลานึงเพื่อสร้างบุญกุศล โดยไม่ต้องโกนผม โกนคิ้ว

การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ กลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือนั้น การบวชมักประกอบไปด้วยพิธีก ร ร มและแบบพิธีต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนการบวชเองนั้นก็มีความแต กต่า งกันไปต ามศาส นาและชื่อเรียกขาน ผู้ที่กำลังเตรียมเข้าสู่การบวชเรียกว่า ผู้เตรียมบวช

ในพ ระพุท ธศาส นา เรียกการบวชว่า การอุปสมบท (บาลี อุปสมฺปทา) แต่เดิมนั้น การบวชเรียกว่า บรรพชา (บาลี ปพฺพชฺชา แปลว่า เว้นทั่ว เว้นจากความชั่ วทุกอย่าง) ปัจจุบันคำว่าบรรพชาใช้กับการบวชสามเณร ในขณะที่อุปสมบทใช้กับการบวชพระภิกษุ

การบวชโดยนัยแล้วคือ การละทิ้ งวิถีชี วิ ต
วามเป็นอยู่เดิม สู่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ ต ามครรลองแห่งมรรค เพื่อเป็นการง่าย เพื่อเป็นการสะดวก เป็นทางอันปล อดโป ร่ง แก่การบรรลุถึงซึ่งวัตถุประสงค์ คือ ความบริสุ ทธิ์หลุ ดพ้ น ปรา ศจากมิ ลทิ น หมดจดจากความเศร้ าห มอง และเป็นอิสระจากพันธนาการเครื่องร้อยรัดทั้งปวง

ในสมัยพุทธกาล การบวชมี 8 อย่าง ได้แก่
‘เอหิภิกขุอุปสัมปทา’ เป็นการบวชที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานแก่พระสาวกบางองค์ด้วยพระองค์เอง ด้วยการตรัสว่า เอหิ ภิกขุ แปลว่า เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นคนแรกและพระสุภัททะเป็นคนสุดท้า ยที่พระพุทธเจ้าทรงบวชด้วยวิธีนี้

‘ติสรณคมนูปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยให้ผู้ขอบวชเปล่งวาจาต่อหน้าพระสาวกว่าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสามครั้ง ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการบรรพชาสามเณร

‘ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยให้คณะสงฆ์ประชุมกันในอุโบสถ โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งแจ้งว่ามีผู้ขอบวช เมื่อประกาศครบสี่ครั้งไ ม่มีพระรูปใดคั ดค้ าน ถือว่าผู้ขอบวชได้รับการยอมรับให้เป็นพระภิกษุ

‘ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยที่พระพุทธเจ้าประทานครุธรรม 8 ประการ แก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คน เมื่อพวกนางยอมรับครุธรรมก็ได้รับสถานะเป็นภิกษุณี

‘อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา’ เป็นการบวชภิกษุณีโดยให้รับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุณีสงฆ์ก่อนครั้งหนึ่ง และจึงรับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุสงฆ์อีกครั้ง เมื่อผ่านการอุปสมบททั้งสองครั้งแล้วจึงเป็นภิกษุณี

‘โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทแก่พระมหากัสสปะ เมื่อท่านรับโอวาทแล้วก็เป็นพระภิกษุ

‘ปัญหาพຍ ากรณูปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงตอบปั ญ หาของสามเณรโสปาก

‘ทูเตนอุปสัมปทา’ เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงส่งทูตของพระองค์ไปบวชหญิงโ ส เ ภ ณีชื่ออัฑฒกาสี

การบวชพระ บวชชีพราหมณ์ ถือเป็นการบวชชั่ วคราวเพื่อสร้างบุญ หรืออุทิศให้พ่อแม่เจ้าก ร ร มนายเว ร ซึ่งนอกจากจะสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่แล้วยังได้อานิสงส์มากมายอีกหลายอย่างดังต่อไปนี้

1 เจ้าก ร ร มนายเ วรจะอโหสิก ร ร ม ห นี้ก ร ร มในอดีตจะคลี่คลาย
2 สุขภาพแข็ งแร ง สติปัญญาแจ่มใส ปั ญห าชีวิตคลี่คลาย
3 เป็นปัจจัยสู่พระนิ พพานในภพต่อๆไป

4 หน้าที่การงานจะเจริ ญรุ่ งเรื อง ได้ลา ภ ยศ สรรเสริ ญต ามปรารถนา
5 สิ่งศัก ดิ์สิท ธิ์คุ้มครอง โพยภั ยอันตรๅยผ่อนหนักเป็นเบา
6 จิตใ จสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต

7 เป็นที่รักที่เมตต ามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8 ทำมาค้าขึ้น ไ ม่อั บจ น การเงินไ ม่ขา ดສาຍไ ม่ข าดมือ
9 โร คภั ยของตนเองของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรัก ษ าห าย
10 ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่ สำหรับผู้ที่บวชไ ม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้าง

ส่วนคนที่ส่งเสริมให้บุคคลใดได้บวชสนับสนุนส่งเสริมโดยไ ม่มีจิตที่บั งคั บใดๆ (ในที่นี่อาจจะเป็นพ่อแม่) การให้คนได้บวช ก็จะได้อานิสงส์ผลบุญเหล่านี้ต ามไปด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้

เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไ ม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไ ม่มีบุญมาหนุนนำแร งก ร ร มอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเด รั จ ฉ าน ภพเป ร ต ภพสัต ว์น ร กที่ไ ม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้

ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไ ม่ได้รับบุญ ดังนั้น ท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภ พทุกช า ติ

เสริมสิริมงคลตามตำราพรหมชาติ…ผู้หญิงนับเวียนซ้าย ผู้ชายนับเวียนขวา

0

เรื่องของการเสริม สิริมงคล ในชีวิตนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความเชื่อส่วนบุคคล วันนี้เราจึงได้นำเคล็ดดี ๆ จาก ตํารา พรหมชาติ มาให้ได้ดูกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็น ชาย หรือหญิงก็ตาม ถ้าอย ากทราบว่าในระยะปีนี้ โช คชะตาจะ ต กที่ใด จะดีหรือว่าไ ม่ดีอย่างไร แนะนำว่าให้ท่านถือ หลัก ทำ นาย ตามห้วงระยะปีที่ ตกนั้ น

ถ้าหากเป็นชาย เริ่มต้นนับอายุ จากเจดีย์ โดยเจดีย์นับเป็นปีที่1 และให้นับเวียนไปทางขวามือ หรือทวนเข็มนาฬิกา จนครบอายุในปัจจุบันเลย

ถ้าหากเกิ ດเป็นหญิง เริ่มนับตั้งแต่เจดีย์ โดยเจดีย์นับเป็นปีที่1 นับเวียนไปทางซ้าย หรือนับตามเข็มนาฬิกา จนครบรอบอายุถึงในปัจจุบัน

1. เ จ ดีย์ ชีวิตของท่านในปีนี้ ท่านจะใช้ชีวิตได้อย่าง ร่วมเย็นเป็นสุข ชีวิตจะมีแต่ ความสุข สบายใจ ทำอะไรก็จะเริ่มประสบความสำเร็จ มีบุญมีกุศลในศ า ส น า ประสงค์สิ่งใด จะเป็นไปตามหวังทุกประก า ร

2. ฉั ต ร เงิน ชะต าของท่านในปีนั้น ท่านจะมีสุข จะมีโช ค เงินทองมากมาย จะมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำจุน ถ้าทำราชการ หรือค้ า ข า ย ก็จะมีความเจริญก้าวหน้า ยิ่งขึ้น

3. ค น ค อ ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะได้รับ ความเ ดื อดร้ อน จะได้รับความร้อนใจต่าง ซึ่งจะมีผู้ทำให้แก่ท่าน และจะได้รับความทุ กข์ย ากลำบาก ทำให้ท่านต้องเ สียทรัพย์สิน เงินทองอยู่เ ส ม อ

4. เ รื อ นหลวง ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะได้รับแต่ความ สุขสบาย มีความเจริญก้าวหน้า ในกิจการทุกอย่าง ท่านจะมีโช คลาภ ได้เงินทอง จะมีผู้อุปถัมภ์อย่างดียิ่ง พวกศั ต รูที่คิดร้ า ยจะแพ้ภั ยตัวเอง

5. ป ร า สาททอง ชะตาของท่านในปีนั้น ถ้าเป็นโสดจะได้พบคู่ ชะตาชีวิตของท่านจะได้พบแต่ ความสุข เจริญก้าวหน้า กิจการที่ทำจะได้ผลประโยชน์แก่ท่านเป็นที่พึงใจ จะสมความปรารถนา ทุกประการ จะได้สัตว์ 4เท้า 2เท้า ถ้าค้าขายจะร่ำຣวຢสาธุบุญ

6. ร า หู ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะได้รับ ความร้อนอกร้อนใจ จะเป็นถ้อยความผู้อื่นที่ทำให้ท่านได้รับความร้อนใจ อยู่เสมอ ทำให้ท่านต้องเ สียทรัพย์สินเงินทอง จะเกิດเป็นปากเ สียง กับเพื่อนบ้าน จะพบกับความวุ่ นว ายอย่างไม่รู้จบ และจะเกิດเจ็ บป่ ว ยขึ้นแก่ท่าน

7. ฉั ต รทอง ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะได้ประสบโช ค มั่งมีด้วยทรัพย์สินเงินทอง พร้อมด้วยลาภยศมิตรสหาย จะมีผู้ใหญ่คอยให้ความอุปถัมภ์เป็นอย่างดี ชะตาชีวิตของท่านในปีนี้ จะมีแต่ความสุข ความเจริญ สบาย ใ จ

8. เ ท ว ด าขี่เต่า ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะมีความสุขพอประมาณ การเงินการทองพอมีใช้มีจ่าย จะทำอะไรจงคิดให้รอบคอบเ สียก่อน มิฉะนั้นจะเกิດผลผิ ดพลาดขึ้นได้ และจะทำให้เดื อดร้อน ใ จ

9. แ ม่ ม ด ชะตาของท่านในปีนั้น ท่านจะได้พบผู้เฒ่าเจ้านาย ที่มีความค้ำชูให้ท่านได้พบกับ ความสุขความเจริญ คำพูดของท่านจะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจแก่คนทั้งหลาย จะไปแห่งใดมีแต่คนรักใคร่ จะมีผู้นำโช คมา ให้แต่ไม่มากนัก ท่านจะต้องเหนื่อยกาย และใจบ้าง

10. น า ค ราช โช คชะตาของท่านในปีนี้จัดว่าไม่ดี ระ วังจะเกิດภัยอั น ต รายใด มีโอกาสเกิດการเจ็ บไ ข้ได้ป่ว ย ให้ระมัดระวั งของมีค ม และการเดินทาง มีโอกาสเจอคนปองร้ า ย ใส่ร้ าย พย าย ามเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา แนะนำว่าให้ภาวนา รั กษ าศีล อย่าได้ เ บี ย ด เบียนซึ่งกันและกัน แล้วชีวิตจะหนักกลาย เป็นเบาลง

11. ค น ต้องขื่อคา ชะตาของท่านในปีนั้น จัดว่าชะตาต กอยู่ในฐานะมิสู้ดี จงมีความระ วังในญาติพี่น้อง จะนำความเดื อดร้อนใจมาให้ คนรักมักจะเอาใจออกห่าง ให้ระวั งอั นต ร าย เร่งจำศีลภาวนา จงทำบุญกุศล สะเดาะเคราะห์ อย่าเดินทางไกล จะได้รับโท ษทัณฑ์อาญา

พ่ อหมอ ชะตาของท่านในปีนั้น จะพบผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชูแก่ท่าน ให้ยศศักดิ์ ท่านจะมีความสุข เจริญก้าวหน้า จะมีโช ค มาสู่ท่าน เป็นที่พึงใจยิ่ง โพยภั ยมิได้มีมาพ้องพานเลย

ขอบคุณ postsara

เส้นบุญ เส้นกรรม…ลองดูว่ามีหรือเปล่า “กากบาทกลางฝ่ามือ”

0

น้อยคนนักที่จะมี เส้นกากบาทกลางฝ่ามือ

ศาสตร์ของการดูลายมือก็เป็นศาสตร์ที่มีการทำมาช้านานมาก และการดูว่ามี เส้นกากบาทกลางฝ่ามือ หรือไม่ก็บอกได้หลายอย่าง สำหรับใครที่มีนั้นก็ถือเป็นเ รื่ อ งดีเพราะเหมือนด ว งชะตาของคุณจะถูกกำหนดเอาไว้ให้เดินมาเจอสิ่งดี ไม่น้อยเหมือนกัน คนที่จะมีกากบาทนั้นไม่ง่ายเลย ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีกัน ลองพลิกฝ่ามือตัวเองขึ้นมาดูไม่แน่คุณอาจจะมีก็ได้ จะเป็นกากบาทแบบไหนมาดูกัน

ความหมายของกากบาทบนฝ่ามือ
ไม่ว่าจะอยู่มือข้างซ้ายหรือขวาก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น และกากบาทเองก็ขึ้นอยู่กับลายมือของแต่ละคน มันแสดงให้เห็นถึงว่าผู้นั้นเป็นคนมีเหตุผล เป็นคนชอบสอน ชอบให้ความเห็นกับทุกคน และมักจะได้เป็นอาจารย์ เ ก จิ ชื่อ ดั ง ครู และผู้มีความชำนาญในด้านต่าง แบบเฉพาะทางไปเลย ถือเป็นเส้นที่ดีไม่น้อยแต่ถ้าหากไปทำร้ า ย ค น อื่ นโ ท ษที่สะท้อนกลับมาก็ รุ น แ ร งเหมือนกัน

กากบาทบนฝ่ามืออีกชื่อคือ “เส้นบุญและเส้น ก ร ร มตั้งแต่ช า ติก่อน” และบางคนที่มีกากบาทยังเป็นคนที่สามารถระลึกชาติได้อีกด้วยนะ และจะคอยให้การช่วยเหลือผู้อื่นได้ดี มีเซน มีลาง สั ง ห รณ์แม่นมาก เป็นคนมีองค์ในตัว และดีอย่างคือ เวลาเจอเหตุการณ์ร้ า ย ก็มักจะผ่านไปได้ด้วยดี ป ล อ ด ภั ย มีมิตรภาพเยอะ มีพระคุ้มครอง เป็นคนพูดตรง ไม่อ้อมค้อมเลย

ในด้านสติปัญญาก็มีเยอะ ฉลาดมาก หั วไ ว มีความกล้าหาญแต่พอเวลาจะใจเย็นก็กว่าน้ำแข็งเสียอีก ในด้านความรักมักไม่ค่อยจะสมหวัง อ่อนไหวง่ายเกินไป ระแวงมากเกินไป ถ้าวางตัวได้ดีลดความระแวงลงบ้างรักจะสมหวังมากทีเดียว การมีกากบาทนี้หากนำไปช่วยเหลือผู้อื่นจะหนุนนำให้เจอแต่เ รื่ อ งดี แต่ถ้าเอามาระแวงคนรอบข้าง เอามาใช้จัมผิดนั้นจะมีแต่เ รื่ อ งร้าว เส้นนี้คือสัมผัสที่ 6 ถ้าใช้ถูกทางจะเจริญก้าวหน้า

สำหรับในกรณีของคนรักอะไรเล็ก น้อย ก็ควรจะปล่อยวางและมองข้ามไปบ้างก็ได้จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นมากขึ้น แต่จงใช้ความฉลาดของคุณในการช่วยเหลือคนอื่นจะดีกว่า ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีกากบาทในฝ่ามือเรายินดีด้วย คุณเป็นคนที่มีโชคมากคนหนึ่งที่ชะตาดีมาก เลยนะ

ขอบคุณข้อมูล จาก khaonaroo

ด้ายขาวผูกแขน ผู้เฒ่าผู้แก่ แม้ไม่มีราคา แต่มีค่าที่สุด

0

เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้มีโอกาสกลับบ้านไปเที่ยวหาญาตฺผู้ใหญ่ ต้องได้มีการรับขวัญโดยการผูกข้อมือ นับเป็นความเชื่อโบราณอีกอย่างหนึ่งของชาวเหนือและชาวอีสาน ที่ในช่วงเทศกาลหรือเวลาลูกหลานกลับบ้านทีไร พ่อแม่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านจะนำด้ายขาวมามัดข้อมือ และอวยพรให้โชคดี เดินทางปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น มีความสุข ซึ่งคนที่ทำงานไกลบ้านจะเข้าใจดี เป็นสัญลักณ์ของความคิดถึง เป็นเครื่องเตือนใจให้เราเวลาคิดถึงบ้าน อดทนสู้เพื่อคนข้างหลังรออยู่ ส่งแรงใจผ่านฝ้ายศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ไม่มีราคา แต่มันมีค่าที่สุด

การผูกแขนหรือข้อมือ เมื่อพราหมณ์สูตรขวัญจบแล้วญาติพี่น้องจะเอาข้าว ไข่ กล้วย ใส่มือเจ้าของขวัญ มือซ้ายหรือมือขวาก็ได้ให้พราหมณ์ผูกข้อมือให้ก่อนปกติจะผูกข้อมือซ้ายเพราะแขนซ้ายถือเป็นแขนขวัญ เป็นแขนที่อ่อนแอใช้งานหนักไม่ได้ เป็นแขนที่น่ารักทะนุถนอม

ในเวลาผูกข้อมือนั้นทุกคนยื่นมือขวาออกไปพยุง โจม แขนของเจ้าของขวัญที่พราหมณ์กำลังทำพิธีผูกข้อมือให้ถ้าอยู่ห่างก็ยื่นมือจับแขนหรือแตะตัวกันต่อๆ มาเป็นเส้นสายเหมือน เชือกส่อแสดงถึงความสัมพันธ์ทางกายและใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วตั้งจิตอธิฐานขอให้เจ้าของขวัญมีความสุขความเจริญเมื่อผูกข้อมือเสร็จให้ผู้เป็นเจ้าของขวัญประนมมือไหว้ผู้ให้พร เป็นการรับเอาพร ในการรับขวัญ มีข้อห้ามว่า

1 ห้ามสองคนผูกแขนข้างเดียวกันให้แก่ผู้รับการผูกแขนพร้อมกัน ผูกคนละข้างไม่ห้าม
2 ผู้รับการผูกแขนต้องหงายมือ ห้ามคว่ำเด็ดขาด เพราะผิดประเพณี คือเป็นการไม่รับขวัญ
3 ผู้ประคองขวัญทุกคนก็ให้หงายมือประคอง ห้ามคว่ำมือเด็ดขาด เพราะผิดประเพณีเช่นเดียวกัน

เมื่อพราหมณ์ผูกเสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นโอกาสของญาติมิตรทั่วๆไปจะเข้ามาผูกข้อมือให้กับเจ้าของขวัญ ด้ายผูกแขน (ด้ายผูกข้อมือ) ถือเป็นของดี ของศักดิ์สิทธิ์ควรรักษาไว้อย่าพึ่งดึงทิ้ง ให้ล่วง 3 วันเสียก่อนจึงดึงออกเวลาทิ้งอย่าทิ้งลงที่สกปรก เพราะด้ายผูกแขนเป็นของขาวของบริสุทธิ์ เป็นจุดรวมแห่งจิตใจบริสุทธิ์หลายดวงจึงควรรักษาไว้ให้ดี

ผู้เฒ่าผู้แก่เคยเล่าให้ฟังว่าด้ายผูกแขนที่เก็บรักษาไว้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันอันตรายได้เช่น มีโจรมาปล้น อธิฐานขอให้จิตทุกดวงช่วยก็ปลอดภัยจากอันตรายได้และเป็นเสน่ห์ดึงดูดจิตใจให้คนรักใคร่ชอบพอได้ การผูกแขน ผูกข้อมือ การผูกแขนที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่เจ้าของ ขวัญควรประกอบด้วยองค์ 4 คือ

1 ผู้ผูก หรือพราหมณ์
2 ผู้รับผูก หรือเจ้าของขวัญ
3 ผู้เกี่ยวข้อง คือญาติมิตร
4 คำกล่าวขณะที่ผูก คำกล่าวขณะที่ผูกเป็นคำเรียกร้องเชิญขวัญซึ่งเป็น คำที่ไพเราะ อ่อนหวาน สุภาพ เรียบร้อยมีความหมายไปในทางที่ดีงาม

ที่มา เค กณวรรธน์

ชีวิตรุ่งเรือง ดีขึ้นทุกวัน เพียงน้ำสะอาดเพียง 1 แก้ว

0

ชีวิตรุ่งเรือง ดีขึ้นทุกวัน เพียงน้ำสะอาดเพียง 1 แก้ว ทำในวันปีใหม่นี้ ถึงวันนี้วันดี เริ่มปีใหม่กันแล้ว หลายๆคนคง เดินสายทำบุญ ไม่ว่าใกล้หรือไกลบ้าน กันพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว เพื่อขออพร ในช่วงปีใหม่นี้

การทำบุญในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าวัดไหว้พระทำบุญ การใส่บาตรในตอนเช้า การถวายสังฆทาน การช่วยเหลือผู่ที่ย ากไร้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งดีๆในการสร้างบุญ สร้างคุณความดีที่ติดกับตัวของเราไปตลอด การถวายน้ำพระ เพียง 1แก้วก็สามารถสร้างบุญให้เราได้มหาศาล ให้ท่านเตรียมน้ำสะอาดไว้1ขวดและนำจรดระหว่างคิ้วแล้วกล่าวคำอธิษฐานจิตต่อไปนี้

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สามจบ) นะโมพุทธายะลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวงที่รั ก ษาตัวข้าพเจ้า ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข

ให้เริ่มเทน้ำลงบนพื้นดิน ลูกขอฝากน้ำอุทิศนี้ไปกับพระแม่คงคาพระแม่ธรณี โปรดมาเป็นทิพย์พย านขออานิสงค์ผลบุญกุศลอันไดที่ข้าพเจ้าชื่อสกุล

ได้กระทำในวันนี้ทั้งหมดทั้งปวงข้าพเจ้าขออุทิศให้กับเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ของข้าพเจ้าอยู่ณปัจจุบันนี้ที่ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากความทุกข์

ไม่ว่าท่านจะมาจากภพใดชาติใดก็ตามทั้งระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพภูมิใดขอให้ท่านมารับกุศลที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ในครั้งนี้

โดยมาให้ถึงจุดหมายอย่าแวะอย่าเวียนที่ใดเลยให้กุศลถึงทั่ว ทุกภพทุกภูมิทุกท่านทุกตัวทุกตนขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าว โปรดกลายเป็นโภคทรัพย์ตามที่ท่านปราถนาทุกประการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ

หมายเหตุ
ระหว่างท่องคำกรวดน้ำด้านบนให้เทน้ำลงดินตลอดให้จบคำกรวดน้ำ

การกรวดน้ำลงดินกุศลจะส่งถึงเร็วกว่าการกรวดน้ำแห้งเพียงอธิษฐานจิตสำหรับผู้ที่บารมียังไม่มากพอหากไม่สะดวกก็กรวดน้ำลงบนภาชนะและนำไปรดลงดินที่โคนต้นไม้ได้เช่นกัน

การขอฝากผ่านบารมีของพระแม่คงคาและพระแม่ธรณีไปสิ่งสำคัญมากไม่ว่าน้ำจะเหลือมากน้อยไหนให้เทให้หมดพร้อมกับคำพูดสุดท้ายที่จบโดยไม่ให้เหลือเอาไว้

หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ขอพรใด ได้สมหวังทุกประการ

0

วันนี้ได้นำเรื่องราวของ หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ นำมาให้เพื่อนๆได้ทราบประวัติขององค์ท่านกันนะคะ หากกล่าวถึงหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปเก่าองค์หนึ่งที่ขุดพบอย่างบังเอิญเมื่อวันจันทร์ที่ ๒ ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีกุน เดือน ๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๒ องค์หลวงพ่อเป็นเนื้อดิน ตั้งอยู่บนคันคลองระพีพัฒน์ฝั่งขวา หันหน้าลงน้ำทิศตะวันออก ในท้องที่ ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี ก่อนที่จะพบองค์หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์บริเวณดังกล่าวเป็นเนินดินที่มีระดับสูงกว่าองค์หลวงพ่อ มีเฉพาะทางคนเดินแคบๆเท่านั้น

ต่อมาได้มีคนงานชลประทานประตูน้ำพระเอกาทศรถมาขุดดินที่เป็นเนินนั้นไปถมริมตลิ่งที่น้ำเซาะพัง คนงานได้ขุดดินมาหลายวันแล้ว จนไปถึงบริเวณที่องค์หลวงพ่อประดิษฐานซึ่งเป็นดินที่แข็งมากผิดไปจากบริเวณอื่น คนงานจึงขุดดินไม่เข้า แต่ได้ขุดดินไปรอบๆที่พอจะขุดได้ดินก็แตกเป็นรูปพระ โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นองค์หลวงพ่อ เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวเข้าก็มามุงดูกันจำนวนมากบางคนก็พูดว่า “พระพุทธรูปมาเกิด” แต่บางคนคิดไปว่า คนงานชลประทานปั้นองค์พระขึ้นมากันเอง

ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ตอนเย็นนางฝอยชาวบ้านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่หลังตลาดหนองตาโล่ได้เดินผ่านมาทางองค์หลวงพ่อ นางฝอยไม่ได้คิดว่าที่เห็นนั้นเป็นพระพุทธรูปนั้นและไม่คิดว่าจะเป็นองค์พระจริงๆจึงเอาเปลือกอ้อยเป็นธูปและเอาใบมะขามเทศเป็นทอง มาไหว้เป็นการล้อเลียนแล้วก็เดินทางกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันถึงบ้านนางฝอยเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จึงนึกขึ้นได้ว่าไปไหว้ล้อเลียนองค์พระนั้นเข้า จึงจุดธูปกราบขอขมาอภัยหลวงพ่ออาการปวดหัวก็หายทันที

และตอนเย็นวันเดียวกัน ยายเกลี้ยงบ้านอยู่ใกล้องค์หลวงพ่อก็กลายเป็นคนเทียมทรงขึ้นทั้งๆก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน ชาวบ้านพากันมามุงดูกันอย่างเนืองแน่นมีผู้สอบถามหลวงพ่อว่า มาจากไหนหลวงพ่อบอกว่า มาคล้องช้างสามวันไม่ได้ช้างนอนหลับที่แคร่บนต้นไม้ พระเครื่องได้ตกลงมาแล้วแต่ก็หาไม่เจอ ต่อมาได้มีคนเอาดินมาถมบริเวณ (คลองระพีพัฒน์ใช้คนขุดเอาดินขึ้นมาถมเมื่อประมาณ ๗๐ ปีก่อน)

ยายหนูถามหลวงพ่อว่า ชื่ออะไร หลวงพ่อบอกว่า หากบอกชื่อให้แล้วจะรับทำสัญญาได้ไหม ยายหนูบอกว่า รับทำให้ได้ หลวงพ่อจึงบอกว่า ให้นิมนต์พระ ๕ วัดมาสวด ให้ตั้งศาลเพียงตา ให้ทำขัน ๕ ทุกๆวัน และจัดงานกลางเดือน ๑๒ ประจำทุกปีแล้วหลวงพ่อก็บอกว่าท่านชื่อ “สำเร็จศักดิ์สิทธิ์” ใครมากราบไหว้ทำอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์และสำเร็จทุกอย่างตามที่คิดไว้ ในขณะเดียวกันชาวบ้านอีกจำนวนมากที่มามุงดูก็เอาขันน้ำมาให้ทำน้ำมนต์แล้วเอากลับไปบ้าน พอเอาน้ำมนต์ใส่ลงในโอ่งน้ำ น้ำในโอ่งเกิดมีเสียงดังจิ๊ดๆๆๆทั้งๆ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและเป็นเช่นนี้ของทุกคนที่เอาน้ำมนต์ไป

ต่อมายายเง็กกับชาวบ้านในตลาดได้ว่าจ้าง นายทวี ดารารัตน์ (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว)มาโบกปูนซีเมนต์ที่องค์หลวงพ่อแต่ชลประทานในสมัยนั้นไม่ยินยอมให้ทำ หาว่ากีดขวางทางคมนาคม โดยขอให้ชาวบ้านโยกย้ายองค์หลวงพ่อไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่มีใครกล้าย้ายจึงได้โบกปูนซีเมนต์ที่องค์หลวงพ่อจนสำเร็จ

คาถาเพื่อขอพรหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ ตั้ง นะโม ๓ จบ
พระพุทธัง สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ พระธัมมัง สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ พระสังฆัง สำเร็จศักดิ์สิทธิ์

ในปี พ.ศ.๒๕๐๕ กรมชลประทานได้มีคำสั่งให้เอารถขุดปรับทางทำถนนบนคันคลองจากท่าหลวงถึง อ.หนองแค ระหว่างทางที่จะถึงองค์หลวงพ่อ รถได้ขุดไปรอบๆฐานจนเกือบจะถูกองค์หลวงพ่อ ก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นทันที ฟ้าได้ผ่าลงมากลางวันแสกๆทั้งๆ ที่ปราศจากเมฆฝน คนขับรีบหยุดรถแล้วกระโดดลงมากราบขอขมาต่อองค์หลวงพ่อ โดยไม่กล้าขุดดินใกล้องค์หลวงพ่ออีกต่อไป ชาวบ้านจึงศรัทธาเลื่อมใส เชื่อกันว่าหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยต่างก็เชื่อกันว่าสามารถปกป้องกันภัยได้ทุกอย่างใครมาบนบานขออะไรก็จะได้รับแต่ความสุขความสมหวังและสมความปรารถนากันทั่วทุกคน

หลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานในวิหารริมคลองระพีพัฒน์(ไม่มีวัด) ทุกปีในกลางเดือน ๑๒ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันจัดงานประจำปีขึ้น ๑๕ วัน ๑๕ คืน ตลอดจนงานปีใหม่ ก็มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ๑๕ วัน ๑๕ คืน เช่นกัน สาธุชนท่านใดได้มาสักการบูชาหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์สักครั้งจะเป็นสิริมงคลและเป็นบุญไปตลอดชีวิตนี้

บทความที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานที่เล่าสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นและมีบันทึกไว้ นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกๆท่าน สาธุ สาธุ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ขอบคุณที่มาจาก https://bit.ly/2QCMQdP

“นะ โม พุท ธา ยะ” อานุภาพครอบจักรวาล แคล้วคลาด ร่ำรวย

0

นะโมพุทธายะ-นะโมพุทธายะ แปลว่า-นะ โม พุ ท ธา ยะ คือ-นะโมพุทธายะคือ “นะ โม พุท ธา ยะ” อานุภาพครอบจักรวาล แคล้วคลาด เฮงๆร่ำรวย เรียกได้ว่านะโมพุทธายะเป็นสุดยอดพุทธคุณอันเปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพ ประโยชน์หลากหลายประการถ้าต้องการที่จะมีคาถาได้คาถาหนึ่ง

ที่สวดแล้วครอบจักรวาลแคล้วคลาดรอดปลอดภัยคงกระพันชาตรีมหานิยมมหาเสน่ห์ แนะนำว่าให้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราจะกล่าวดังต่อไปนี้ คาถานี้ก็คือคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ซึ่งมีตัวอักขระพิเศษ 5 ตัวนั่นก็คือ เป็นอักขระพิเศษที่ใช้แทนพระพุทธเจ้า5พระองค์อีกทั้งยังมีความหมาย ของแม่ธาตุใหญ่ที่ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งบนโลกจึงถือได้ว่า

เป็นคาถาหลักๆที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง นะโมพุทธายะ-นะโมพุทธายะ แปลว่า-นะ โม พุ ท ธา ยะ คือ-นะโมพุทธายะคือ โดยมีความเชื่อที่ว่าถ้าผู้ใดบริกรรมคาถาบูชาสวดนะโมพุทธายะ ด้วยจิตใจอันสงบด้วยจิตใจอันดีจะทำให้มีชีวิตที่ดีแคล้วคลาดรอดปลอดภัย ภยันใดๆไม่กล้าเข้ามาทั้งนี้ยังได้มีการนำพระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ มาสร้างเป็นยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อีก ด้วยโดยลงอักขระด้วยนะโมพุทธายะ ใช้ได้ครอบจักรวาลซึ่งปรากฏทั้งผ้ายันต์และวัตถุมงคลต่างๆ

สำหรับความหมายของนะโมพุทธายะมีดังต่อไปนี้

(นะ) หมายถึง พระกุกกุสันโธใช้เขียนแทนธาตุน้ำหรืออาโปธาตุ

มีกำลังเท่ากับด๒ใช้ในการเสกให้เกิดพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

สำหรับความหมายของนะโมพุทธายะมีดังต่อไปนี้

(นะ) หมายถึง พระกุกกุสันโธใช้เขียนแทนธาตุน้ำหรืออาโปธาตุ

มีกำลังเท่ากับด๒ใช้ในการเสกให้เกิดพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

(ยะ) หมายถึง พระศรีอารยเมตไตรย(พระพุทธเจ้าองค์ถัดไปหลังพ.ศ.๕๐๐๐)

ใช้เขียนแทนอากาศธาตุมีกำลังเท่ากับด๐เมื่อรวมกำลัง

ธาตุทั้ง๕ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า๕๖

ฉะนั้นแล้วสำหรับใครที่ สวดนะโมพุทธายะเป็นประจำทุกวันจะส่งผล ในเรื่องของทุกๆด้านทั้งในเรื่องของการแคล้วคลาดปลอดภัย และเป็นมหานิยมเมตตามีแต่คนรักมีเสน่ห์เรียกว่าในสมัย โบราณนิยมโสดกันมากจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งคาถาพระเจ้า5พระองค์นั้นได้มีการใช้อยู่อย่างหลากหลาย

เช่นคาถาบูชาหลวงพ่อโสธรอันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ นะโมพุทธายะ-นะโมพุทธายะ แปลว่า-นะ โม พุ ท ธา ยะ คือ-นะโมพุทธายะคือ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการ สวดคาถาพระเจ้า5พระองค์นี้นั้นเพียงคุณ มีสมาธิมีสติท่องสั้นๆว่านะโมพุทธายะทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวันวันละหลายๆรอบ

จะเป็นการดีจะช่วยปกปักรักษาป้องกันคุ้มภัยในสิ่งที่คุณมองเห็น และมองไม่เห็นได้ทั้งในเรื่องไสยไม่ให้เข้ามากำกายแม้สิ่งที่ไม่ดี แอบแฝงมาก็จะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจในที่สุด

ขอบคุณแหล่งที่มา yakrookaset

สร้าง กระท่อมไม้ไผ่ ทั้งหลังด้วยงบ ไม่เกิน 500 บาท

0

เป็นอีกหนึ่งวัสดุธรรมชาติที่นำมาสร้างบ้านแล้วออกมาสวยน่าอยู่มากๆ นั่นก็คือ ไม้ไผ่ ไผ่ เป็นไม้พุ่ม ไม้ไผ่มีคุณสมบัติพิเศษทั้งด้านความแข็งแรงและยืดหยุ่นที่เหนือกว่าวัสดุสังเคราะห์หลายชนิด วันนี้เราจะพาไปดูทำกระท่อมหลังน้อยๆ ด้วยไม้ไผ่ทั้งหลัง ด้วยงบไม่เกิน 500 บาท เพราะว่าเป็นไม้ไผ่ของตัวเอง และสร้างด้วยตัวเองอีก โดยเป็นผลงานจากผู้ใช้เฟสบุ๊ก เชษฐ คนชอบเที่ยว ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุว่า…

เล็กๆไว้นอนเล่น ไผ่ทั้งหลังต้นทุนต่ำกระท่อมไม้ไผ่

หลังเล็กๆ

ไม้ไผ่ทั้งหลัง

หน้าต่าง

มีระเบียง

ภายในห้องนอน

นั่งชิลๆ

บรรยากาศดีมากๆ

ด้วยงบไม่เกิน 500 บาทจริง

เป็นกระท่อมไม้ไผ่หลังเล็กๆ ที่ใช้ต้นทุนในการสร้างไม่เกิน 500 บาท ได้หลังขนาดนี้ไว้พักผ่อนชิลๆ เข้ากับบรรยากาศธรรมชาติมากๆ ดูไว้เป็นไอเดียกันได้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เชษฐ คนชอบเที่ยว